หมวดหมู่: คอมพิวเตอร์

18 ธ.ค.

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้งานเฟสบุ๊ค 

เฟสบุ๊คมีประโยชน์มากมายต่อการสื่อสารและการเชื่อมต่อกับคนรอบตัว นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญ:

  1. การเชื่อมโยงและการสื่อสาร: เฟสบุ๊คช่วยให้คุณสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว และคนรอบตัวได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการแชท โพสต์ภาพ หรือแชร์ข้อมูลต่าง ๆ 
  2. การเชื่อมต่อสังคม: เฟสบุ๊คช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับกลุ่มสังคมที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความสนใจที่เหมือนกัน หรือกลุ่มที่มีความสนใจแตกต่างกัน
  3. การแบ่งปันข้อมูล คุณสามารถแบ่งปันข้อมูล ความคิดเห็น ภาพถ่าย และวิดีโอได้ในเวลาเรียลไทม์ ซึ่งช่วยสร้างพื้นที่สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้กับผู้คนรอบตัว
  4. การเสพติดข่าวสาร เฟสบุ๊คเป็นแหล่งข่าวสารที่สำคัญสำหรับการเข้าถึงข้อมูลและข่าวสารที่อัพเดตอยู่เสมอ เป็นที่รู้จักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ
  5. การสนับสนุนกลุ่มและองค์กร: มีการใช้งานเฟสบุ๊คในการสร้างหรือสนับสนุนกลุ่มและองค์กรที่ต้องการเผยแพร่ความคิดเห็นหรือสร้างความต่อเนื่องในกิจกรรมต่าง ๆ 
  6. การโฆษณาและการตลาด ผู้ประกอบการและบริษัทใช้เฟสบุ๊คเป็นเครื่องมือในการโฆษณาและการตลาดสินค้าและบริการ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงไปตรงมา
  7. การแสดงความคิดเห็นและการเรียนรู้ คุณสามารถเรียนรู้จากความคิดเห็นและประสบการณ์ของผู้อื่นที่แบ่งปันบนเฟสบุ๊คได้ เช่นการอ่านบทความ โพสต์ หรือสนทนากับคนในกลุ่ม

 

อย่างไรก็ตาม การใช้เฟสบุ๊คอย่างมีสติและอย่างรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบางครั้งการใช้งานที่ไม่มีสติอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นส่วนตัวได้ 

การใช้งานเฟสบุ๊คมีข้อควรระวังบางอย่างที่ควรทำความเข้าใจและระมัดระวังดังนี้:

  1. ความเป็นส่วนตัว: เมื่อโพสต์ข้อมูลหรือรูปภาพบนเฟสบุ๊ค จำไว้เสมอว่ามันสามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะหรือกลุ่มบางกลุ่ม เช่น ให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เหมาะสมถูกโพสต์โดยไม่ได้ตั้งใจ
  2. การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว: ตรวจสอบและกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวของโพสต์และข้อมูลส่วนตัวของคุณ ให้แน่ใจว่าเฟสบุ๊คมีการตั้งค่าที่เหมาะสมสำหรับความเป็นส่วนตัวของคุณ
  3. การสื่อสาร ระวังการสื่อสารออนไลน์ เช่น อย่าส่งข้อมูลส่วนตัวหรือความคิดเห็นที่อาจทำให้คุณหรือผู้อื่นเสียหาย
  4. การตรวจสอบข่าว: อย่าแชร์ข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่มีแหล่งที่มาเชื่อถือได้ ตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะแชร์
  5. การใช้งานอย่างสม่ำเสมอ เฟสบุ๊คอาจทำให้คุณติดสาระสำคัญหรือเกิดความยุ่งเหยิง ให้ใช้เวลาอย่างมีสติและใช้งานอย่างมีวินัย
  6. การเสี่ยงต่อความเดือดร้อน: ระวังการแสดงความคิดเห็นหรือโพสต์ที่อาจทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ให้มีการสื่อสารอย่างสุภาพและรอบคอบ

 

การใช้งานเฟสบุ๊คอย่างมีสติและระมัดระวัง จะช่วยให้คุณประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในสังคมออนไลน์นี้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    aesexy

17 ธ.ค.

Apple TV เป็นอุปกรณ์สตรีมมิ่งและแพลตฟอร์มมัลติมีเดีย

Apple TV เป็นอุปกรณ์สตรีมมิ่งและแพลตฟอร์มมัลติมีเดียที่พัฒนาโดย Apple Inc. ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการรับชมเนื้อหาดิจิทัลบนโทรทัศน์ Apple TV มีสองรูปแบบหลักคือ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ผ่านสาย HDMI และอีกส่วนหนึ่งคือ Apple TV แอปพลิเคชันที่สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสมาร์ททีวี, iPhone, iPad และ Mac

คุณสมบัติหลักของ Apple TV

  1. สตรีมมิ่งเนื้อหาดิจิทัล: Apple TV ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสตรีมมิ่งเนื้อหาจากบริการต่าง ๆ เช่น Netflix, YouTube, Disney+, Amazon Prime Video และอื่น ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง นอกจากนี้ Apple TV ยังมี Apple TV+ ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งเฉพาะของ Apple ที่มีเนื้อหาต้นฉบับที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น รายการทีวี, ภาพยนตร์, และสารคดี
  2. การรับชมเนื้อหาจาก iTunes และ Apple Music: Apple TV ยังสามารถให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาที่ซื้อหรือเช่าผ่าน iTunes รวมถึงการฟังเพลงจาก Apple Music ได้เช่นกัน โดยผู้ใช้สามารถรับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงที่ตนเองชื่นชอบผ่านทางโทรทัศน์ได้อย่างง่ายดาย
  3. การควบคุมด้วย Siri: Apple TV มีฟีเจอร์การควบคุมด้วยเสียงผ่าน Siri ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เพียงแค่พูดคำสั่ง เช่น Play the latest episode of [TV show] หรือ “Show me action movies” Siri จะทำการค้นหาและแสดงผลตามคำสั่ง
  4. การเล่นเกม: Apple TV รองรับการเล่นเกมผ่าน Apple Arcade ซึ่งเป็นบริการสมัครสมาชิกเกมของ Apple ผู้ใช้สามารถเลือกเล่นเกมหลากหลายแบบจากคลังเกมที่มีให้บริการ และสามารถเล่นผ่านคอนโทรลเลอร์ที่รองรับ หรือใช้รีโมท Apple TV เองก็ได้
  5. การเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ: Apple TV สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบนิเวศของ Apple เช่น iPhone, iPad และ Mac ผ่าน AirPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงผลหน้าจอจากอุปกรณ์ดังกล่าวไปยังโทรทัศน์ได้ เช่น การแชร์ภาพถ่าย, วิดีโอ, หรือแม้กระทั่งการประชุมทางวิดีโอผ่าน Zoom
  6. การควบคุมสมาร์ทโฮม: Apple TV สามารถทำหน้าที่เป็นฮับกลางสำหรับการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ ผ่านแอป Home โดยสามารถควบคุมหลอดไฟ, กล้องวงจรปิด, ระบบรักษาความปลอดภัย และอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ ได้แม้ผู้ใช้จะอยู่นอกบ้าน
  7. หน้าจอโฮมแบบปรับแต่งได้: Apple TV ให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมตามความต้องการได้ สามารถจัดเรียงแอปพลิเคชันตามลำดับความสำคัญ หรือแม้แต่เปลี่ยนวอลเปเปอร์หรือหน้าจอพักตามที่ชอบ
  8. การเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย: Apple TV รองรับการใช้งานกับแอปพลิเคชันจากนักพัฒนาภายนอกมากมาย ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น การดูการถ่ายทอดสดกีฬา การเรียนรู้ออนไลน์ การฝึกโยคะ และอื่น ๆ


Apple TV ไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์สำหรับการรับชมเนื้อหาบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของความบันเทิงและการควบคุมอุปกรณ์ในบ้านที่ครบวงจร ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ทำให้ Apple TV กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความหลากหลายในการใช้งานและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      Holiday Palace

29 พ.ย.

แนวความคิดการสร้าง app Facebook

การสร้างแอปพลิเคชันแบบ Facebook เป็นการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีคุณสมบัติเชื่อมต่อผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก ดังนั้นการวางแผนและพัฒนาแอปพลิเคชันเช่นนี้จึงต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งทางเทคนิคและการออกแบบ ต่อไปนี้คือแนวความคิดและขั้นตอนการสร้างแอปพลิเคชัน Facebook

  1. การกำหนดเป้าหมายและกลุ่มผู้ใช้

– เป้าหมาย: สร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกัน แบ่งปันข้อมูล ข่าวสาร และ  ole777 ทางเข้า มือถือ    ประสบการณ์ต่างๆ

– กลุ่มผู้ใช้: ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ

  1. คุณสมบัติหลัก (Key Features)

– การสมัครและเข้าสู่ระบบ: ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกและเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลหรือบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ

– โปรไฟล์ผู้ใช้: ผู้ใช้สามารถสร้างและแก้ไขโปรไฟล์ของตนเอง รวมถึงการเพิ่มรูปภาพและข้อมูลส่วนตัว

– ฟีดข่าว (News Feed): แสดงการอัปเดตและโพสต์จากเพื่อนๆ และเพจที่ผู้ใช้ติดตาม

– การโพสต์และแบ่งปัน: ผู้ใช้สามารถโพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และลิงก์

– การแสดงความคิดเห็นและการกดไลค์: ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดเห็นและกดไลค์โพสต์ต่างๆ

– การค้นหา: ระบบการค้นหาสำหรับการค้นหาเพื่อน เพจ และเนื้อหาต่างๆ

– การแชทและส่งข้อความ: ระบบแชทและการส่งข้อความระหว่างผู้ใช้

– การแจ้งเตือน: แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีการตอบกลับหรือการกระทำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  1. การออกแบบและประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX Design)

– การออกแบบอินเทอร์เฟซ: การออกแบบอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้

– การตอบสนองและการทำงานรวดเร็ว: ให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันสามารถตอบสนองและทำงานได้รวดเร็วเพื่อให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้

– การปรับแต่ง: อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าและลักษณะของโปรไฟล์ได้ตามต้องการ

  1. การพัฒนาเทคโนโลยี

– เทคโนโลยีเว็บและมือถือ: การพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บและอุปกรณ์มือถือ

– ฐานข้อมูล การจัดการฐานข้อมูลเพื่อเก็บข้อมูลผู้ใช้ โพสต์ ความคิดเห็น และข้อมูลอื่นๆ

– เซิร์ฟเวอร์และความปลอดภัย การจัดการเซิร์ฟเวอร์และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้

  1. การทดสอบและปรับปรุง

– การทดสอบความเสถียร: ทดสอบการทำงานของแอปพลิเคชันในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีบั๊กหรือปัญหา

– การทดสอบผู้ใช้: ทดสอบการใช้งานกับกลุ่มผู้ใช้จริงเพื่อนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุง

– การปรับปรุงและอัปเดต: ปรับปรุงและอัปเดตแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้

  1. การเปิดตัวและการตลาด

– การเปิดตัว: เปิดตัวแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการและให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้

– การตลาดและการโปรโมต: ทำการตลาดและโปรโมตแอปพลิเคชันผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และสื่ออื่นๆ


การสร้างแอปพลิเคชันแบบ Facebook ต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนาอย่างมาก แต่หากดำเนินการอย่างถูกต้องและมีการวางแผนที่ดี ก็สามารถสร้างแพลตฟอร์มที่มีคุณค่าและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ได้

18 พ.ย.

คอมพิวเตอร์กับเกมส์

คอมพิวเตอร์และเกมส์มีความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์กันอย่างมากในโลกดิจิทัลครับ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นเกมส์อย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกับการใช้งานในงานอื่น ๆ เช่นการทำงานทางการ การเรียนการสอน และการสื่อสาร

การเล่นเกมส์บนคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น สร้างความบันเทิง การฝึกฝนทักษะทางด้านความสนใจ เช่น การแก้ปัญหา การตัดสินใจ และการทำงานร่วมกับผู้เล่นอื่น ๆ ซึ่งสามารถเสริมสร้างทักษะสังคมและการทำงานร่วมกันได้ด้วย

 

นอกจากนี้ การเล่นเกมยังสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเรียนรู้ เช่น การใช้เกมในการฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ การเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ หรือการพัฒนาทักษะทางด้านเทคโนโลยีและการโปรแกรมมิ่ง ซึ่งมีเกมที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้อย่างเป็นทางการอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมส์ก็มีด้านลบบางด้านด้วย เช่น การใช้เวลาเกินไปในการเล่นเกมส์อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และบางครั้งอาจเป็นเหตุให้เกิดปัญหาทางสังคมหรือการเรียนการสอนด้วย ดังนั้น การใช้งานคอมพิวเตอร์และการเล่นเกมส์ควรมีการดูแลและควบคุมอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในด้านต่างๆ ด้วย

 

การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมส์มีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

  1. เลือกและซื้อเกม: เริ่มต้นโดยการเลือกเกมที่คุณสนใจและตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีความสามารถพอที่จะเล่นเกมนั้นได้หรือไม่ คุณสามารถซื้อเกมได้จากหลายแหล่ง เช่น Steam, Epic Games Store, หรือจากร้านค้าออนไลน์อื่นๆ
  2. ตรวจสอบความต้องการของระบบ: ก่อนซื้อเกม ควรตรวจสอบว่าเกมนั้นมีความต้องการของระบบ (system requirements) ที่ตรงกับคอมพิวเตอร์ของคุณหรือไม่ เช่น การ์ดจอ หน่วยประมวลผล หรือหน่วยความจำ
  3. ติดตั้งเกม: เมื่อซื้อเกมแล้ว คุณจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งเกมลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาตามขนาดของเกมและความเร็วของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณ
  4. เปิดเกม: เมื่อเกมถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเปิดเกมได้ โดยเข้าไปที่โฟลเดอร์ที่เกมถูกติดตั้งหรือผ่านแพลตฟอร์มที่คุณซื้อเกมมา
  5. ปรับแต่งการตั้งค่า: หลังจากเปิดเกมแล้ว คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเกมเพื่อให้เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์และความชอบของคุณ เช่น ความละเอียด, เสียง, หรือตัวเลือกอื่นๆ
  6. เริ่มเล่นเกม: เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว คุณสามารถเริ่มเล่นเกมได้ตามปกติ อาจมีคำแนะนำหรือการสอนเบื้องต้นเมื่อเริ่มเกมครั้งแรก เพื่อช่วยคุณในการเรียนรู้วิธีการเล่นและปฏิบัติต่างๆ ในเกมนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเล่นเกมส์จะคอมฯ จะช่วยให้เราสนุกสนานและผ่อนคลาย แต่หากเราเล่นเกมส์มากจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเราได้เช่นเดียวกัน ซึ่ง  ole777   เชื่อว่าหลายคนคงรู้ดีถึงข้อเสียของการเล่นเกมส์มากจนเกินไปอยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้จะสนุกกับการเล่นเกมส์มากแค่ไหน แต่ก็ควรแบ่งเวลาในการเล่นเกมส์ให้ดีอย่าให้ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของเรา

25 ต.ค.

ความแตกต่างมือถือระหว่าง iPhone 15 Pro Max กับ Samsung Galaxy S22

ขออธิบายว่าในวันที่ทำการค้นคว้าข้อมูลล่าสุดเป็นเวลาเดือนมกราคม 2023 และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 15 Pro Max หรือ Samsung Galaxy S22 ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างนี้ คำตอบนี้อาจจะไม่ครอบคลุมทุกส่วน ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่มีข้อมูลเป็นทางการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมือถือ

ดังนั้น ขอให้คำตอบนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแนวโน้มและความแตกต่างที่อาจพบในมือถือระดับสูงจาก Apple (iPhone 15 Pro Max) และ Samsung (Galaxy S22) ตามที่ได้มีในอดีต

1.iPhone 15 Pro Max

– ระบบปฏิบัติการ: iPhone 15 Pro Max จะใช้ iOS, ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Apple และมีความเน้นที่ความสอดคล้องและประสิทธิภาพสูง

– ดีไซน์และวัสดุ:Apple มักมีการออกแบบที่หล่อเลี้ยงและใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง

ชิปประมวลผล:อาจมีชิปประมวลผลที่แรงขึ้นและมีประสิทธิภาพสูง

 

2.Samsung Galaxy S22

– ระบบปฏิบัติการ: Galaxy S22 จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android โดยมีการปรับแต่งโดย Samsung และอาจมีตัวอัพเดตล่าสุดของ Android

– ดีไซน์และวัสดุ: Samsung มักมีดีไซน์ที่ลงตัวและใช้วัสดุที่หลากหลาย

– ชิปประมวลผล:อาจมีชิปประมวลผลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ากับ iPhone 15 Pro Max

ความแตกต่างทางเทคนิคอื่น ๆ

-กล้อง: ทั้ง iPhone และ Samsung Galaxy มักมีกล้องที่มีความละเอียดสูงและฟีเจอร์การถ่ายภาพที่สวยงาม

-หน้าจอ:ทั้งสองรุ่นจะมีหน้าจอที่คมชัดและสามารถแสดงผลสีสันได้ดี

-ความจุแบตเตอรี่:อาจมีความแตกต่างในความจุของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการใช้งาน

การเลือกซื้อมือถือขึ้นอยู่กับความต้องการและ preference ของแต่ละบุคคล ควรพิจารณาเน้นที่คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคุณ เช่น ระบบปฏิบัติการที่คุณชอบ, กล้องที่ต้องการ, หรือความสามารถในการใช้งานทั่วไปและการใช้งานที่พิเศษที่คุณต้องการ

 

การตัดสินใจซื้อมือถือมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เรามาดูปัจจัยบางประการที่สำคัญ

1.ระบบปฏิบัติการ: คำเตือน: iOS (iPhone) หรือ Android (Samsung, และแบรนด์อื่น ๆ) ทั้งคู่มีคุณสมบัติและประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างกันมาก ควรพิจารณาระบบที่คุณชอบและถนัดมากที่สุด

2.การออกแบบและวัสดุ:ดูดีไซน์และวัสดุที่ใช้ในการสร้างมือถือ เนื่องจากมีผลต่อความคุ้มค่าของเครื่องและประสบการณ์การใช้งาน

3.ประสิทธิภาพ:ชิปประมวลผล, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), และ RAM มีผลต่อประสิทธิภาพของมือถือ ทำให้เครื่องทำงานได้เร็วและประทับใจ

4.กล้อง:ถ้าคุณรักการถ่ายภาพ, ควรพิจารณาคุณภาพของกล้องหลังและกล้องหน้า, การรองรับการถ่ายวิดีโอ และฟีเจอร์พิเศษ

5.หน้าจอ:ความละเอียด, ขนาด, และความสามารถในการแสดงผล (เช่น HDR) มีผลต่อประสบการณ์การใช้งาน

6.ความจุแบตเตอรี่:ควรพิจารณาความจุแบตเตอรี่และวิธีการจัดการพลังงาน เพื่อให้มีการใช้งานได้นานพอต่อความต้องการของคุณ

7.ราคา:ควรพิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้, และหากมีแบรนด์หรือรุ่นที่คุณต้องการ ที่อยู่ในราคาที่คุณจะสามารถชำระได้

 

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

23 ต.ค.

การอัพเดตซอฟต์แวร์ ในคอมพิวเตอร์ คืออะไร

 การอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์หมายถึงการปรับปรุงหรืออัพเกรดโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย แก้ไขบัํนทึกข้อผิดพลาด (bugs), หรือเพิ่มฟังก์ชันใหม่ลงในระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการพัฒนาที่ต่อเนื่องของซอฟต์แวร์นั้น ๆ ซึ่งอาจเป็นทั้งโปรแกรมแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการเอง

 การอัพเดตซอฟต์แวร์มีความสำคัญเพราะมันช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีประสิทธิภาพที่ดี, ปลอดภัย, และสามารถใช้งานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ การที่คุณไม่อัพเดตซอฟต์แวร์อาจทำให้คุณพลาดการปรับปรุงที่สำคัญ ทำให้ระบบไม่ปลอดภัยต่อการแฮ็กหรือไวรัส หรือไม่สามารถใช้งานกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ได้

 การอัพเดตซอฟต์แวร์สามารถทำได้ผ่านหลายวิธี เช่น การอัพเดตอัตโนมัติ (automatic updates) ที่ระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมมีตัวเลือกให้ การดาวน์โหลดและติดตั้งอัพเดตด้วยตนเอง หรือการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีไว้เพื่อการจัดการและอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์

 

เรามีความจำเป็นที่จะต้องอัพเดตซอฟต์แวร์ ในคอมพิวเตอร์ หรือไม่

ใช่, การอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์มีความจำเป็นที่สำคัญ นอกจากที่ได้กล่าวถึงในคำตอบก่อนหน้า นี่คือเหตุผลบางประการที่ทำให้การอัพเดตเป็นสิ่งที่ควรทำ

1.ความปลอดภัย: การอัพเดตช่วยป้องกันการโจมตีทางดิจิทัลและทำให้ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมที่ใช้งานมีระดับความปลอดภัยสูงขึ้น บางครั้ง ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จะทำการแก้ไขช่องโหว่ (vulnerabilities) หรือบันทึกข้อผิดพลาดที่เจอเพื่อป้องกันการโจมตี

2.ประสิทธิภาพ: การอัพเดตช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ โปรแกรมที่มีการปรับปรุงอาจมีการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพและการใช้ทรัพยากรที่ดีขึ้น

3.เพิ่มความสามารถ: บางครั้ง การอัพเดตซอฟต์แวร์จะเพิ่มฟังก์ชันใหม่หรือปรับปรุงฟังก์ชันที่มีอยู่เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากความสามารถใหม่ ๆ ที่มีการเพิ่มเข้ามา

4.เข้าทางกับเทคโนโลยีใหม่: การอัพเดตช่วยให้ระบบของคุณสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้ ทำให้คุณไม่พลาดประโยชน์จากนวัตกรรม

 5.การแก้ไขปัญหา: การอัพเดตช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระบบหรือโปรแกรม และทำให้การใช้งานเป็นไปได้ด้วยความเสถียร

สรุปการอัพเดตซอฟต์แวร์ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันใหม่ ปรับปรุงความปลอดภัย และเข้าทางกับเทคโนโลยีล่าสุด ดังนั้นมันเป็นที่สำคัญที่จะดูแลและทำการอัพเดตเป็นประจำ

การอัพเดตซอฟต์แวร์แบบง่ายสามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้

1.ตั้งค่าการอัพเดตอัตโนมัติ

– สำหรับระบบปฏิบัติการ (เช่น Windows, macOS, Linux), คุณสามารถตั้งค่าให้ระบบทำการอัพเดตอัตโนมัติได้ ใน Windows, คุณสามารถไปที่ “Settings” > “Update & Security” > “Windows Update” เพื่อตั้งค่าการอัพเดต

– สำหรับโปรแกรมแอปพลิเคชัน, มีแอพที่มักมีตัวเลือก “Check for Updates” หรือ “Auto-update” ที่คุณสามารถเปิดใช้งานได้

2.อัพเดตผ่านตัวอัพเดตของโปรแกรม

– บางโปรแกรมมีตัวเลือกในตัวเองที่อนุญาตให้คุณตรวจสอบและอัพเดตโปรแกรมได้ มักจะมีตัวเลือก “Check for Updates” หรือ “Update Now” ในเมนูหลักของโปรแกรม

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

14 ต.ค.

เปิดเว็บคำนวณหารค่าอาหารค่าใช้จ่ายหมดปัญหาจ่ายให้ก่อน

 

     เชื่อว่าปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเจอเวลาที่ไปรวมตัวกันระหว่างเพื่อนฝูงหรือว่าเครือญาติก็คือเวลาที่ต้องไปรวมตัวกันที่สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารสิ่งที่ตามมาก็คือเวลาที่ต้องจ่ายเงินค่าบริการต่างๆเรานั้นหรือค่าอาหารเหล่านั้นมักจะมีปัญหาเรื่องของการหารที่ไม่ลงตัวกันสุดท้ายแล้วก็จะมีคนนึงที่ออกค่าใช้จ่ายก่อนหลังจากนั้นค่อยมาหารคำนวณทีหลังว่าจะต้องจ่ายกันเท่าไหร่อะไรยังไง 

  • ซึ่งปัญหานี้บางครั้งก็พบว่าบางคนหลังจากที่หารค่าใช้จ่ายออกมาแล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินหรือบางคนก็มองว่าการต้องมานั่งหารค่าใช้จ่ายกันนั้นเป็นการคำนวณตัวเลขที่ค่อนข้างยุ่งยาก
  • ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความเครียดและไม่อยากจะไปเจอเพื่อนฝูงเพราะไม่อยากจะต้องมานั่งคำนวณว่าจะต้องหารกันคนละเท่าไหร่ 
  • ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดีๆซึ่งเป็นวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายให้จากระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่

ซึ่งเราคลิกเพียงแค่ครั้งเดียวระบบก็จะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายให้โดยเราสามารถใส่จำนวนคนที่ไปและจำนวนเงินที่จ่ายระบบจะมีการคำนวณ ค่าใช้จ่ายให้ซึ่งถือได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียวซึ่งการคำนวณนี้สามารถทำได้ผ่านทางเว็บเท่านั้น 

  สำหรับเว็บไซต์ที่มีการเปิดการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆให้โดยเราเพียงแค่ใส่ข้อมูลลงไปอย่างเช่นค่าอาหารหรือจำนวนคนที่ไปในกรุ๊ปดังกล่าวนั้นมีจำนวนเท่าไหร่เว็บไซต์นี้ก็จะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆออกมาให้ว่าต้องหารกันคนละเท่าไหร่ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวชื่อว่าเว็บไซต์ jabont 

   สำหรับวิธีการเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ jabont  งั้นทำได้โดยเราสามารถที่จะเข้าไปใช้บริการผ่านทางบราวเซอร์ได้เลยซึ่งเราสามารถที่จะเข้าไปเลือกรายการอาหารแล้วก็ใส่จำนวนเงินว่าอาหารแต่ละอย่างนั้นเป็นเงินเท่าไหร่นอกจากนี้เราอยากจะหารจำนวนสมาชิกที่ไปทานอาหารครั้งนั้นกี่คนก็ใส่จำนวนสมาชิกลงไประบบก็จะมีการคำนวณวิธีการให้แสนง่ายดายสรุปแล้วใครต้องจ่ายเท่าไหร่ก็จะมีการคำนวณออกมาให้อย่างชัดเจน 

  สำหรับเว็บไซต์ jabont  สามารถที่จะเข้าไปใช้บริการได้ฟรีโดยที่ไม่มีการคิดค่าใช้บริการในการเข้าไปใช้โปรแกรมดังกล่าวดังนั้นหากใครที่กำลังมีปัญหาปวดหัวเกี่ยวกับเรื่องของการคำนวณค่าใช้จ่ายแนะนำว่าลองเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ jabont  รับรองได้เลยว่ามันจะช่วยให้คุณหายปวดหัวได้อย่างแน่นอน

ซึ่งเว็บไซต์ jabont  เป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาคำนวณเพื่อ  คาสิโนเวียดนาม     ไม่ให้คู่ควรต้องมาปวดหัวหรือยุ่งยากกับการคำนวณตัวเลขเกี่ยวกับเรื่องของการหารค่าอาหารและค่าใช้จ่ายใดๆนั่นเอง หากใครสนใจอยากลองเล่นดูก็เข้าไปใช้งานได้เลยนะคะ

4 ต.ค.

IOS กับ Android นั้นแตกต่างกันอย่างไร 

สำหรับโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยนั้นมีเยอะแยะมากมายหลายแบรนด์เลยทีเดียวแต่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมากก็แบ่งออกเป็น 2 ระบบนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือ iPhone

ซึ่งเจ้าของนั่นก็คือ Apple นั่นเองส่วนอีกระบบหนึ่งนั้นก็จะเป็น Android ซึ่งโทรศัพท์ Android นั้นก็จะมีมากมายหลายบริษัทที่เป็นเจ้าของการผลิตแต่ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมากเป็นพิเศษนั้นก็จะเป็นยี่ห้อ Samsung นั่นเอง 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่ได้ยึดติดเกี่ยวกับแบรนด์ของยี่ห้อของโทรศัพท์มือถือแล้วชื่อว่าคงเกิดความสงสัยว่าระหว่าง iOS กับ Android

นั้นมันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรหรือมันมีจุดเด่นอะไรที่เราจะนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ที่เราจะซื้อมาใช้นั้นเราควรจะซื้อ Android หรือว่า iOS ดีดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน 

สำหรับจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ iOS นั่นก็คือ  ตัวเครื่องนั้นสามารถที่จะใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้อย่างง่ายดายโดยเราจะสังเกตเห็นได้ว่าทาง Apple นั้นได้มีการผลิตสินค้าของตนเองออกมาเยอะแยะมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น asper Watch หรือ iPad หรือแม้แต่ Mac เป็นต้นซึ่งอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เราสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone ได้และเราไม่จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเมนูการใช้งานตัวอุปกรณ์ใหม่เพราะว่าลักษณะของการทำงานนั้นมีรูปแบบที่มีความเหมือนกันมาก

ดังนั้นเราจึงสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่วถึงแม้ว่าเราจะพึ่งซื้อคนเหล่านั้นมาใช้งานก็ตาม นอกจากนี้การทำงานของระบบ iOS นั้นก็ยังสามารถใช้งานลื่นไหลและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปลั๊กน้อยมาก 

และที่สำคัญทาง Apple นั้นมักจะให้ลูกค้าได้มีการอัพเดทอุปกรณ์ของตนเองอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากว่าอุปกรณ์ของ iPhone นั้นมีปัญหาทาง Apple ก็จะมีการให้อัพเดท iOS อย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา 

ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นระบบ Android นั้นจะเห็นได้ว่าในเรื่องของการอัพเดทระบบปฏิบัติการนั้นค่อนข้างมีการอัพเดทน้อยและเรามักจะพบปัญหา Bug

ซึ่งเกิดจากระบบ Android นั้นบ่อยมากเรียกได้ว่า Application ที่ดาวน์โหลดมาใช้งานใน Android นั้นค่อนข้างที่จะใช้งานยากและไม่ค่อยเสถียร  รวมถึงระบบ Android นั้น

ถ้าหากเปรียบเทียบเรื่องของความปลอดภัยการคัดกรองต่างๆจะเข้มงวดน้อยกว่า Apple มากดังนั้นเรามักจะเห็นได้ว่าพวกมิจฉาชีพทั้งหลายมักจะสามารถแฮกข้อมูลหรือส่งมาแวะมาก่อกวนแอพพลิเคชั่นใน Android มากกว่าใน  iOS นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    huaylike เข้าสู่ระบบ

16 ก.ย.

IPhone 15 และ iPhone 14 ต่างกันแค่ไหน 

เชื่อว่าหลายคนที่ชื่นชอบโทรศัพท์มือถือของ iPhone คงจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมายทุกครั้งที่ iPhone ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างเช่นล่าสุดที่ iPhone ได้มีการออก iPhone 15 ออกมานั้นราคาก็ไม่ได้ถูกมากนัก  หรืออาจปรับได้ว่าราคานั้นเกินครึ่งแสนเลยก็ว่าได้ดังนั้นเมื่อมี iPhone 15 ออกมา iPhone รุ่นอื่นๆก็จะมีการตกรุ่นแต่ราคาก็จะตกตามไปด้วย

  ซึ่งในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เสาร์ iPhone ทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอยากได้ iPhone 15 แต่ถ้าหากว่าเพิ่งซื้อ iPhone 14 ไปหลายคนก็คงจะมีการตั้งคำถามเกิดขึ้นในใจว่าเราควรที่จะมีการเปลี่ยนเครื่องจาก iPhone 14 เป็น iPhone 15 แล้ว

หรือและ iPhone 15 ที่ออกมาใหม่นั้นมันมีคุณสมบัติเด่นอย่างไรแตกต่างจาก iPhone 14 มากน้อยแค่ไหนเพียงพอให้เราที่จะซื้อ iPhone 5 มาใช้งานได้แล้วหรือยัง

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างกันระหว่างของ iPhone 14 และ iPhone 15 เหลือที่ใครกำลังพิจารณาอยากจะเปลี่ยนจาก iPhone 14 ไปใช้เป็น iPhone 15 จะได้นำข้อมูลนี้ไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจนั่นเอง 

สำหรับความแตกต่างระหว่าง iPhone 14 และ iPhone 15 ที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่าของเรานั่นก็คือการดีไซน์ของตัวเครื่องนั่นเองจะเห็นได้ว่ามีการปรับปรุงรูปแบบของตัวเครื่องมีการดีไซน์ให้มีความสวยงามและสะสมมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขอบตัวเครื่องนั้นจะมีความมนมากกว่า iPhone 14 เป็นอย่างมาก

และที่สำคัญสายชาร์จของ iPhone 15 นั้นก็มีการใช้เป็นแบบพอร์ต USB- C ซึ่งแต่เดิมนั้น iPhone 14 หรือแม้แต่ iPhone รุ่นอื่นๆนั้นจะไม่ได้มีการใช้สายชาร์จเป็นแบบ USB- C นี้ 

นอกจากนี้ภาพลักษณ์ภายนอกของ iPhone 15 ก็ยังเลิศหรูดูแพงเนื่องจากว่าวัสดุที่นำมาใช้ในการประกอบตัวเครื่องนั้น iPhone 15 ได้ถูกนำไทยเทเนียมมาใช้วัสดุในการสร้างตัวเครื่องของ iPhone 15

ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าตัวไทเทเนียมนั้นมีความแข็งแรงและทนทานมากแค่ไหน  รวมถึงปุ่มกดต่างๆของ iPhone 15 นั้นก็จะแตกต่างจากกลุ่มกฎของ iPhone 14 โดยมีการสลับปุ่มสั่งการและยังมีปุ่มลับอีกมากมายที่เราสามารถตั้งได้ตามต้องการ 

ที่สำคัญคือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือสเปคของ iPhone 15 นั้นจะมีความแรงมากกว่าเดิม  และมีลูกเล่นที่เยอะมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆซึ่งเราสามารถหาดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆเหล่านี้เพิ่มเติมได้จากทางอินเตอร์เน็ต  และที่เหมือนกันระหว่าง iPhone 14 และ iPhone 15 ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนนั้นก็จะเป็นหน้าจอซึ่งไม่ว่าจะเป็น iPhone 14 หรือ iPhone 15 ก็ยังคงใช้หน้าจอเท่ากันนั่นก็คือขนาด 6.1 นิ้วนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย     Huaylike

14 ก.ย.

วิธีคัดลอกรูปภาพจาก shopee และ Lazada affiliate เพื่อนำมาสร้างรายได้ทำยังไง

สำหรับในบทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับการคัดลอกลิงค์ จาก shopee กับ Lazada แล้วก็การนำข้อมูลแล้วก็รูปภาพจากสินค้าที่เราจะต้องการนำไปโปรโมทเพื่อสร้างรายได้จากการทำ affiliate แล้วก็รับเป็นค่าคอมมิชชั่นเนี่ยทำยังไง  โดยจะสอนวิธีการแชร์ลิงก์แชร์โพสต์ไปในแพลตฟอร์มช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ 

อันดับแรกเลยเนี่ยทุกคนก็จะต้องมี 2 แอปนี้ก่อนนั่นก็คือช้อปปี้แล้วก็ Lazada นั่นเองซึ่ง Lazada ซึ่งคนที่จะทำ affiliate ได้นั้นจะต้องมีการสมัคร Application shopee และ Lazada เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Lazada นั้นเราเพียงแค่คลิกคำว่า Last affiliate หลังจากนั้นก็เข้ามาสมัครใช้งานได้เลยซึ่งการใช้งานก็ไม่ยากเพียงแค่เราค้นหาสินค้าที่เราต้องการจะขายพิมพ์ชื่อไปก็ได้หรือเราจะดูว่าสินค้าตัวไหนที่น่าขายผ่านช่องทางหน้าหลักก็ได้และเราก็เพียงแค่กดคัดลอกลิงค์แล้วก็นำไปแชร์นำไปโปรโมทได้เลย

ส่วนช้อปปี้ก็เหมือนกันให้เราเข้ามาที่หน้าโปรไฟล์บัญชีส่วนตัวของฉันเลื่อนลงมาด้านล่างแล้วก็เข้าไปที่โปรแกรม affiliate เหมือนกันจากนั้น    เว็บหวยดี   เราก็สมัครกรอกข้อมูลให้เรียบร้อยแต่ว่าของ shopee จะต้องรอก่อเอกสารยืนยันเอกสารให้เสร็จ  ซึ่ง shopee จะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบภายใน 7 วัน

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าระหว่าง shopee กับ Lazada นั้นจะไม่เหมือนกันเนื่องจากว่า Lazada เราสามารถเริ่มทำเริ่มสร้างรายได้ได้ก่อนแล้วก็รอยืนยันตรวจสอบเอกสารทีหลังได้แต่ช้อปปี้เราต้องยืนยันเอกสารก่อนถึงจะสามารถเริ่มทำได้ อันดับแรกเราก็ต้องทำโพสต์ทำ Content ของเราเตรียมไว้ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ  จะคิดแคปชั่นเขียนเป็นบทความ ต้องมีการเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนจะนำไปโพสต์นำไปแชร์

ถัดมาเนี่ยก็ไปที่ช่องทาง Social Media ของเรา ซึ่งในบทความนี้จะเป็นการสอนแชร์ไปที่ Facebook Fanpage เดินเนื่องจากการที่เราจะต้องไปที่โปรไฟล์ส่วนตัวสลับบัญชีเป็น Facebook แฟนเพจ  หลังจากนั้นเนี่ยผมก็จะนำวีดีโอตัวที่เราเตรียมเอาไว้ไปแชร์ลงใน Facebook Fanpage แล้วก็จะติดลิงค์แอปริเอทของช้อปปี้แล้วก็ Lazada  แล้วเราก็ไปที่ Upload

สำหรับสินค้าที่เราจะนำไปโพสขายนั้นเราก็สามารถหาสินค้าได้จาก Applicationshopee กับ Lazada โดยจะพิมพ์คำค้นหาชื่อสินค้าที่เรามีการนำรูปภาพไปโพสต์เอาไว้  ซึ่งสินค้าแต่ละอย่างนั้นจะมีค่าคอมมิชชั่นให้กับเราด้วยแต่ละสินค้านั้นค่าคอมมิชชั่นก็จะแตกต่างกันออกไปบางสินค้าอาจจะได้ค่าคอมมิชชั่นเพียงแค่ประมาณ 1.75% ก็มีหรือบางสินค้าอาจจะได้รับเปอร์เซ็นต์ 7-8% ก็มีขึ้นอยู่กับสินค้าที่เรานำมาโพสต์นั่นเอง  ก็มีขึ้นอยู่กับสินค้าที่เรานำมาโพสต์นั่นเอง

สำหรับรายได้จากการที่เราทำ affiliate นั้นจะได้หลังจากที่คนเข้ามาซื้อสินค้าตามลิงค์ที่เรากดแล้วซึ่งทางร้านค้าก็จะเป็นคนให้ค่าคอมมิชชั่นกับทางเราผ่านทาง Application เราก็สามารถถอนเงินจากการขายสินค้าผ่าน affiliate  มาใช้งานได้