คอมพิวเตอร์กับเกมส์

18 พ.ย.

คอมพิวเตอร์กับเกมส์

คอมพิวเตอร์และเกมส์มีความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์กันอย่างมากในโลกดิจิทัลครับ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นเกมส์อย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกับการใช้งานในงานอื่น ๆ เช่นการทำงานทางการ การเรียนการสอน และการสื่อสาร

การเล่นเกมส์บนคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น สร้างความบันเทิง การฝึกฝนทักษะทางด้านความสนใจ เช่น การแก้ปัญหา การตัดสินใจ และการทำงานร่วมกับผู้เล่นอื่น ๆ ซึ่งสามารถเสริมสร้างทักษะสังคมและการทำงานร่วมกันได้ด้วย

 

นอกจากนี้ การเล่นเกมยังสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเรียนรู้ เช่น การใช้เกมในการฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ การเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ หรือการพัฒนาทักษะทางด้านเทคโนโลยีและการโปรแกรมมิ่ง ซึ่งมีเกมที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้อย่างเป็นทางการอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมส์ก็มีด้านลบบางด้านด้วย เช่น การใช้เวลาเกินไปในการเล่นเกมส์อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และบางครั้งอาจเป็นเหตุให้เกิดปัญหาทางสังคมหรือการเรียนการสอนด้วย ดังนั้น การใช้งานคอมพิวเตอร์และการเล่นเกมส์ควรมีการดูแลและควบคุมอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในด้านต่างๆ ด้วย

 

การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมส์มีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

  1. เลือกและซื้อเกม: เริ่มต้นโดยการเลือกเกมที่คุณสนใจและตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีความสามารถพอที่จะเล่นเกมนั้นได้หรือไม่ คุณสามารถซื้อเกมได้จากหลายแหล่ง เช่น Steam, Epic Games Store, หรือจากร้านค้าออนไลน์อื่นๆ
  2. ตรวจสอบความต้องการของระบบ: ก่อนซื้อเกม ควรตรวจสอบว่าเกมนั้นมีความต้องการของระบบ (system requirements) ที่ตรงกับคอมพิวเตอร์ของคุณหรือไม่ เช่น การ์ดจอ หน่วยประมวลผล หรือหน่วยความจำ
  3. ติดตั้งเกม: เมื่อซื้อเกมแล้ว คุณจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งเกมลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาตามขนาดของเกมและความเร็วของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของคุณ
  4. เปิดเกม: เมื่อเกมถูกติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเปิดเกมได้ โดยเข้าไปที่โฟลเดอร์ที่เกมถูกติดตั้งหรือผ่านแพลตฟอร์มที่คุณซื้อเกมมา
  5. ปรับแต่งการตั้งค่า: หลังจากเปิดเกมแล้ว คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเกมเพื่อให้เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์และความชอบของคุณ เช่น ความละเอียด, เสียง, หรือตัวเลือกอื่นๆ
  6. เริ่มเล่นเกม: เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว คุณสามารถเริ่มเล่นเกมได้ตามปกติ อาจมีคำแนะนำหรือการสอนเบื้องต้นเมื่อเริ่มเกมครั้งแรก เพื่อช่วยคุณในการเรียนรู้วิธีการเล่นและปฏิบัติต่างๆ ในเกมนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการเล่นเกมส์จะคอมฯ จะช่วยให้เราสนุกสนานและผ่อนคลาย แต่หากเราเล่นเกมส์มากจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเราได้เช่นเดียวกัน ซึ่ง  ole777   เชื่อว่าหลายคนคงรู้ดีถึงข้อเสียของการเล่นเกมส์มากจนเกินไปอยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้จะสนุกกับการเล่นเกมส์มากแค่ไหน แต่ก็ควรแบ่งเวลาในการเล่นเกมส์ให้ดีอย่าให้ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของเรา

25 ต.ค.

ความแตกต่างมือถือระหว่าง iPhone 15 Pro Max กับ Samsung Galaxy S22

ขออธิบายว่าในวันที่ทำการค้นคว้าข้อมูลล่าสุดเป็นเวลาเดือนมกราคม 2023 และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 15 Pro Max หรือ Samsung Galaxy S22 ซึ่งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างนี้ คำตอบนี้อาจจะไม่ครอบคลุมทุกส่วน ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่มีข้อมูลเป็นทางการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมือถือ

ดังนั้น ขอให้คำตอบนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแนวโน้มและความแตกต่างที่อาจพบในมือถือระดับสูงจาก Apple (iPhone 15 Pro Max) และ Samsung (Galaxy S22) ตามที่ได้มีในอดีต

1.iPhone 15 Pro Max

– ระบบปฏิบัติการ: iPhone 15 Pro Max จะใช้ iOS, ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Apple และมีความเน้นที่ความสอดคล้องและประสิทธิภาพสูง

– ดีไซน์และวัสดุ:Apple มักมีการออกแบบที่หล่อเลี้ยงและใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง

ชิปประมวลผล:อาจมีชิปประมวลผลที่แรงขึ้นและมีประสิทธิภาพสูง

 

2.Samsung Galaxy S22

– ระบบปฏิบัติการ: Galaxy S22 จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android โดยมีการปรับแต่งโดย Samsung และอาจมีตัวอัพเดตล่าสุดของ Android

– ดีไซน์และวัสดุ: Samsung มักมีดีไซน์ที่ลงตัวและใช้วัสดุที่หลากหลาย

– ชิปประมวลผล:อาจมีชิปประมวลผลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ากับ iPhone 15 Pro Max

ความแตกต่างทางเทคนิคอื่น ๆ

-กล้อง: ทั้ง iPhone และ Samsung Galaxy มักมีกล้องที่มีความละเอียดสูงและฟีเจอร์การถ่ายภาพที่สวยงาม

-หน้าจอ:ทั้งสองรุ่นจะมีหน้าจอที่คมชัดและสามารถแสดงผลสีสันได้ดี

-ความจุแบตเตอรี่:อาจมีความแตกต่างในความจุของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการใช้งาน

การเลือกซื้อมือถือขึ้นอยู่กับความต้องการและ preference ของแต่ละบุคคล ควรพิจารณาเน้นที่คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับคุณ เช่น ระบบปฏิบัติการที่คุณชอบ, กล้องที่ต้องการ, หรือความสามารถในการใช้งานทั่วไปและการใช้งานที่พิเศษที่คุณต้องการ

 

การตัดสินใจซื้อมือถือมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เรามาดูปัจจัยบางประการที่สำคัญ

1.ระบบปฏิบัติการ: คำเตือน: iOS (iPhone) หรือ Android (Samsung, และแบรนด์อื่น ๆ) ทั้งคู่มีคุณสมบัติและประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างกันมาก ควรพิจารณาระบบที่คุณชอบและถนัดมากที่สุด

2.การออกแบบและวัสดุ:ดูดีไซน์และวัสดุที่ใช้ในการสร้างมือถือ เนื่องจากมีผลต่อความคุ้มค่าของเครื่องและประสบการณ์การใช้งาน

3.ประสิทธิภาพ:ชิปประมวลผล, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), และ RAM มีผลต่อประสิทธิภาพของมือถือ ทำให้เครื่องทำงานได้เร็วและประทับใจ

4.กล้อง:ถ้าคุณรักการถ่ายภาพ, ควรพิจารณาคุณภาพของกล้องหลังและกล้องหน้า, การรองรับการถ่ายวิดีโอ และฟีเจอร์พิเศษ

5.หน้าจอ:ความละเอียด, ขนาด, และความสามารถในการแสดงผล (เช่น HDR) มีผลต่อประสบการณ์การใช้งาน

6.ความจุแบตเตอรี่:ควรพิจารณาความจุแบตเตอรี่และวิธีการจัดการพลังงาน เพื่อให้มีการใช้งานได้นานพอต่อความต้องการของคุณ

7.ราคา:ควรพิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้, และหากมีแบรนด์หรือรุ่นที่คุณต้องการ ที่อยู่ในราคาที่คุณจะสามารถชำระได้

 

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

23 ต.ค.

การอัพเดตซอฟต์แวร์ ในคอมพิวเตอร์ คืออะไร

 การอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์หมายถึงการปรับปรุงหรืออัพเกรดโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย แก้ไขบัํนทึกข้อผิดพลาด (bugs), หรือเพิ่มฟังก์ชันใหม่ลงในระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการพัฒนาที่ต่อเนื่องของซอฟต์แวร์นั้น ๆ ซึ่งอาจเป็นทั้งโปรแกรมแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการเอง

 การอัพเดตซอฟต์แวร์มีความสำคัญเพราะมันช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีประสิทธิภาพที่ดี, ปลอดภัย, และสามารถใช้งานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ การที่คุณไม่อัพเดตซอฟต์แวร์อาจทำให้คุณพลาดการปรับปรุงที่สำคัญ ทำให้ระบบไม่ปลอดภัยต่อการแฮ็กหรือไวรัส หรือไม่สามารถใช้งานกับฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ได้

 การอัพเดตซอฟต์แวร์สามารถทำได้ผ่านหลายวิธี เช่น การอัพเดตอัตโนมัติ (automatic updates) ที่ระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมมีตัวเลือกให้ การดาวน์โหลดและติดตั้งอัพเดตด้วยตนเอง หรือการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่มีไว้เพื่อการจัดการและอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์

 

เรามีความจำเป็นที่จะต้องอัพเดตซอฟต์แวร์ ในคอมพิวเตอร์ หรือไม่

ใช่, การอัพเดตซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์มีความจำเป็นที่สำคัญ นอกจากที่ได้กล่าวถึงในคำตอบก่อนหน้า นี่คือเหตุผลบางประการที่ทำให้การอัพเดตเป็นสิ่งที่ควรทำ

1.ความปลอดภัย: การอัพเดตช่วยป้องกันการโจมตีทางดิจิทัลและทำให้ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมที่ใช้งานมีระดับความปลอดภัยสูงขึ้น บางครั้ง ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จะทำการแก้ไขช่องโหว่ (vulnerabilities) หรือบันทึกข้อผิดพลาดที่เจอเพื่อป้องกันการโจมตี

2.ประสิทธิภาพ: การอัพเดตช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ โปรแกรมที่มีการปรับปรุงอาจมีการปรับปรุงในด้านประสิทธิภาพและการใช้ทรัพยากรที่ดีขึ้น

3.เพิ่มความสามารถ: บางครั้ง การอัพเดตซอฟต์แวร์จะเพิ่มฟังก์ชันใหม่หรือปรับปรุงฟังก์ชันที่มีอยู่เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากความสามารถใหม่ ๆ ที่มีการเพิ่มเข้ามา

4.เข้าทางกับเทคโนโลยีใหม่: การอัพเดตช่วยให้ระบบของคุณสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้ ทำให้คุณไม่พลาดประโยชน์จากนวัตกรรม

 5.การแก้ไขปัญหา: การอัพเดตช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระบบหรือโปรแกรม และทำให้การใช้งานเป็นไปได้ด้วยความเสถียร

สรุปการอัพเดตซอฟต์แวร์ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันใหม่ ปรับปรุงความปลอดภัย และเข้าทางกับเทคโนโลยีล่าสุด ดังนั้นมันเป็นที่สำคัญที่จะดูแลและทำการอัพเดตเป็นประจำ

การอัพเดตซอฟต์แวร์แบบง่ายสามารถทำได้ตามขั้นตอนนี้

1.ตั้งค่าการอัพเดตอัตโนมัติ

– สำหรับระบบปฏิบัติการ (เช่น Windows, macOS, Linux), คุณสามารถตั้งค่าให้ระบบทำการอัพเดตอัตโนมัติได้ ใน Windows, คุณสามารถไปที่ “Settings” > “Update & Security” > “Windows Update” เพื่อตั้งค่าการอัพเดต

– สำหรับโปรแกรมแอปพลิเคชัน, มีแอพที่มักมีตัวเลือก “Check for Updates” หรือ “Auto-update” ที่คุณสามารถเปิดใช้งานได้

2.อัพเดตผ่านตัวอัพเดตของโปรแกรม

– บางโปรแกรมมีตัวเลือกในตัวเองที่อนุญาตให้คุณตรวจสอบและอัพเดตโปรแกรมได้ มักจะมีตัวเลือก “Check for Updates” หรือ “Update Now” ในเมนูหลักของโปรแกรม

 

สนับสนุนโดย    หวยดี

21 ต.ค.

Application 4 ประเภทที่ควรลบทิ้งไม่ควรเก็บไว้ในเครื่อง 

         สำหรับในบทความนี้  huaydee    เราจะมีการพูดถึง Application ที่เรามากจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้ที่ตัวเครื่องหรือแม้แต่โทรศัพท์บางรุ่นบางยี่ห้อนั้น

ก็จะมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีความจำเป็นในการใช้งานมาเก็บไว้ให้ในเครื่องบางส่วนแล้วอย่างไรก็ตาม Application ที่มีอยู่ในทุกวันนี้นั้นมีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่ง Application บางตัวก็มีประโยชน์ที่จะดาวน์โหลดมาเก็บไว้ใช้งานแอปพลิเคชันบางตัวซึ่งอาจจะไม่ได้มีการดาวน์โหลดเองแต่ว่าโรงงานมีการดาวน์โหลดมาให้นั้นก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรแถมยังส่งผลเสียกับตัวเครื่องได้อีกด้วย

      สำหรับผลเสียของ Application ที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์นั้นก็คือมันจะทำให้เมมโมรี่ในตัวเครื่องนั้นเต็มเร็วทำให้หนักเครื่องและเราก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้งานดังนั้นจึงไม่ควรแอบเก็บ Application เหล่านี้เก็บไว้ที่ตัวเครื่องซึ่ง Application ที่ถ้าหากเราพบเห็นในตัวเครื่องควรจะดำการลบออกจากตัวเครื่องทันทีเพราะไม่มีประโยชน์นั้นมีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน 

          Application สำหรับช่วยในการเคลียร์ Ram   สำหรับแอปพลิเคชันนี้คุณสมบัติของมันนั้นถูกสร้างขึ้นมาดูเหมือนจะมีประโยชน์

กับการใช้งานตัวเครื่องแต่จริงๆแล้วถึงแม้ว่าเราจะใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในการช่วยทำการเคลียร์หรือปิดการทำงานของแอปพลิเคชันบางตัวไปแล้วแต่ระบบก็จะมีการเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาเองอัตโนมัติ  นอกจากนี้ทุกครั้งที่ Application มีการเปิดขึ้นมาใหม่นั้นจะยิ่งทำให้เราสูญเสีย Ram รวมถึงสูญเสียแบตเตอรี่เร็วมากขึ้นอีกด้วยดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีแอพพลิเคชั่นนี้ไว้ในตัวเครื่อง

         Application ที่โหลดมาเพื่อใช้ในการประหยัดแบตเตอรี่ปัจจุบันนี้ Application เหล่านี้มีให้เราดาวน์โหลดมาใช้งานแต่อันที่จริงแล้ว

คุณสมบัติของครูไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iPhone ก็มีเมนูตัวเครื่องที่เราสามารถใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่ได้และที่สำคัญถ้าหากว่า Application ตัวไหนที่เราดาวน์โหลดมาไว้ที่ตัวเครื่องแล้วไม่จำเป็นใช้งานเราสามารถปิดการทำงานของแอปนั้นก็เป็นการประหยัดแบตเตอรี่ได้แล้วดังนั้นแอปพลิเคชั่นนี้จึงเป็นอีกหนึ่ง App ที่ไม่จำเป็นต้องมี

           Application สำหรับกำจัดไฟล์ขยะ  เป็นอีกหนึ่ง Application ที่ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดมาใช้งานเลยเพราะเมนูเครื่องมันจะมีคุณสมบัติของการเคลียร์ข้อมูลให้อยู่แล้วซึ่งไม่ว่าจะเป็น Android

หรือ iPhone เราสามารถทำการเคลียร์ขยะได้จากเมนูการตั้งค่าแล้วเลือกไปที่หัวข้อ Storage แล้วให้เราเลือกหัวข้อเคลียร์ Cache Data เท่านี้ก็เป็นการเสร็จสิ้นพิธีการเคลียร์ไฟล์ขยะแล้วนั่นเอง 

         นอกจากนี้จะมี App บาง app ที่มีการติดตั้งมาให้เราฟรีตั้งแต่ตอนที่ซื้อเครื่องหรือเป็นการผลิตมาจากโรงงานแล้วแต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ามีบางแอปนั้นเราไม่เราไม่เคยเปิดไปใช้งานหรืออาจจะไม่เคยรู้เลยว่ามี Application เหล่านี้

อยู่ที่ตัวเครื่องดังนั้นเราสามารถไปตรวจสอบรายละเอียดของแอพพลิเคชั่นในเครื่องและ app ไหนไม่ได้ใช้งานก็ทำการ disable  ซึ่งมันจะทำให้เราประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของตัวเครื่องได้ด้วย 

15 ต.ค.

วิธีคลายเครียดของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก  เจ้าพ่อโซเชียล

          เมื่อพูดถึงชื่อ  มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก   เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เนื่องจากว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งแอพพลิเคชั่นที่ทั่วโลกนิยมเล่นกันเป็นอย่างมากนั่นก็คือ Facebook นั่นเอง

  สำหรับชายหนุ่มรายนี้ปัจจุบันเขาอายุ 38 ปีเป็นผู้บริหารของบริษัท Meta โดยมีการก่อตั้ง Facebook ขึ้นมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2004  ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าเขากลายมาเป็นเจ้าพ่อโซเชียลตั้งแต่เขาอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น 

      สำหรับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เขาได้เข้าสู่วงการแห่งโลกโซเชียลมานานกว่า 18 ปีแล้วดังนั้นจึงนับได้ว่าเขาเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการ Social อันดับต้นๆเลยก็ว่าได้  ในช่วงที่มีการเปิดตัว Facebook ครั้งแรกนั้น มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ทำการเปิดบริษัทเล็กๆขึ้นมาเพียงเท่านั้นและบริหารการจัดการบริษัทของตนเองจนประสบความสำเร็จกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

มีการขยายกิจการใหญ่โตดังนั้นนับตั้งแต่ บริษัทที่อยู่ภายใต้การดูแลของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีชื่อเสียงโด่งดังก็ทำให้เขานั้นต้องเจอกับข่าวคราวเยอะแยะมากมายทั้งข่าวที่เป็นเรื่องดีและข่าวที่เป็นเรื่องร้าย 

           อย่างไรก็ตามต่อให้มีการบริหารบริษัทประสบความสำเร็จมากแค่ไหนแต่ระหว่างทางกว่าที่จะมีการประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องเจอกับเรื่องราวเครียดต่างๆมากมายเช่นเดียวกันดังนั้นเราจะมาดูกันว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เขามีวิธีการคลายความเครียดให้กับตนเองอย่างไรและตายการคลายความเครียดของเขานั้นเป็นในรูปแบบไหน 

         มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก  กล่าวว่าในทุกวันนี้เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาสิ่งที่เราต้องทำเลยก็คือการเข้าไปอ่านอีเมลดูว่าในขณะนี้ใน Inbox ของเขานั้น

มีข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างมีข่าวดีหรือข่าวร้ายอะไรเพื่อที่เขาจะได้มีการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีและถ้าหากต้องอ่านไปเจอเกี่ยวกับข่าวร้ายของบริษัทของตนเองสิ่งที่ทำได้มากที่สุดก็คือพยายามหาทางแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดและลืมเรื่องที่ไม่ดีให้เร็วที่สุดเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากว่ามัวแต่จมกับข่าวที่ไม่ดีก็ไม่สามารถที่จะไปทำอย่างอื่นได้นั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามหากต้องเจอกับเรื่องร้ายตั้งแต่เช้าตรู่วิธีการแก้ไขปัญหาการคลายเครียดของเขาก็คือการเล่นเซิร์ฟเนื่องจากว่ามาร์คซัคเคอร์เบิร์กนั้นชื่นชอบการเล่นเซิร์ฟเป็นชีวิตจิตใจ

ดังนั้นหากเครียดเมื่อไหร่เมื่อได้เล่นเซิฟก็จะทำให้เขาลืมเลือนสิ่งที่เครียดได้ทันที ปัจจุบันในทุกๆวันจะต้องมีการออกไปเล่นเซิฟวันละ 1 ชั่วโมงขั้นต่ำซึ่งถ้าหากวันไหนเครียดมากก็อาจจะใช้ระยะเวลาในการเล่นเซิร์ฟนานมากกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากเล่นเซิฟจนสบายใจแล้วจึงค่อยกลับมาทำงานใหม่ 

        อย่างไรก็ตามนอกจากกิจกรรมการเรื่องเซิร์ฟแล้วกิจกรรมเกี่ยวกับทางน้ำมากมายก็เป็นที่โปรดปรานของมาร์คซัคเคอร์เบิร์กเช่นเดียวกันซึ่งเขายืนยันว่าการทำกิจกรรมต่างๆจะเป็นการชาร์จพลังงานให้กับตัวเขาเองได้ดีและจะทำให้เขาพร้อมที่จะสามารถสู้กับปัญหาได้

 

สนับสนุนโดย    huaydee

14 ต.ค.

เปิดเว็บคำนวณหารค่าอาหารค่าใช้จ่ายหมดปัญหาจ่ายให้ก่อน

 

     เชื่อว่าปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเจอเวลาที่ไปรวมตัวกันระหว่างเพื่อนฝูงหรือว่าเครือญาติก็คือเวลาที่ต้องไปรวมตัวกันที่สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารสิ่งที่ตามมาก็คือเวลาที่ต้องจ่ายเงินค่าบริการต่างๆเรานั้นหรือค่าอาหารเหล่านั้นมักจะมีปัญหาเรื่องของการหารที่ไม่ลงตัวกันสุดท้ายแล้วก็จะมีคนนึงที่ออกค่าใช้จ่ายก่อนหลังจากนั้นค่อยมาหารคำนวณทีหลังว่าจะต้องจ่ายกันเท่าไหร่อะไรยังไง 

  • ซึ่งปัญหานี้บางครั้งก็พบว่าบางคนหลังจากที่หารค่าใช้จ่ายออกมาแล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินหรือบางคนก็มองว่าการต้องมานั่งหารค่าใช้จ่ายกันนั้นเป็นการคำนวณตัวเลขที่ค่อนข้างยุ่งยาก
  • ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความเครียดและไม่อยากจะไปเจอเพื่อนฝูงเพราะไม่อยากจะต้องมานั่งคำนวณว่าจะต้องหารกันคนละเท่าไหร่ 
  • ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดีๆซึ่งเป็นวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายให้จากระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่

ซึ่งเราคลิกเพียงแค่ครั้งเดียวระบบก็จะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายให้โดยเราสามารถใส่จำนวนคนที่ไปและจำนวนเงินที่จ่ายระบบจะมีการคำนวณ ค่าใช้จ่ายให้ซึ่งถือได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียวซึ่งการคำนวณนี้สามารถทำได้ผ่านทางเว็บเท่านั้น 

  สำหรับเว็บไซต์ที่มีการเปิดการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆให้โดยเราเพียงแค่ใส่ข้อมูลลงไปอย่างเช่นค่าอาหารหรือจำนวนคนที่ไปในกรุ๊ปดังกล่าวนั้นมีจำนวนเท่าไหร่เว็บไซต์นี้ก็จะมีการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆออกมาให้ว่าต้องหารกันคนละเท่าไหร่ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวชื่อว่าเว็บไซต์ jabont 

   สำหรับวิธีการเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ jabont  งั้นทำได้โดยเราสามารถที่จะเข้าไปใช้บริการผ่านทางบราวเซอร์ได้เลยซึ่งเราสามารถที่จะเข้าไปเลือกรายการอาหารแล้วก็ใส่จำนวนเงินว่าอาหารแต่ละอย่างนั้นเป็นเงินเท่าไหร่นอกจากนี้เราอยากจะหารจำนวนสมาชิกที่ไปทานอาหารครั้งนั้นกี่คนก็ใส่จำนวนสมาชิกลงไประบบก็จะมีการคำนวณวิธีการให้แสนง่ายดายสรุปแล้วใครต้องจ่ายเท่าไหร่ก็จะมีการคำนวณออกมาให้อย่างชัดเจน 

  สำหรับเว็บไซต์ jabont  สามารถที่จะเข้าไปใช้บริการได้ฟรีโดยที่ไม่มีการคิดค่าใช้บริการในการเข้าไปใช้โปรแกรมดังกล่าวดังนั้นหากใครที่กำลังมีปัญหาปวดหัวเกี่ยวกับเรื่องของการคำนวณค่าใช้จ่ายแนะนำว่าลองเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ jabont  รับรองได้เลยว่ามันจะช่วยให้คุณหายปวดหัวได้อย่างแน่นอน

ซึ่งเว็บไซต์ jabont  เป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาคำนวณเพื่อ  คาสิโนเวียดนาม     ไม่ให้คู่ควรต้องมาปวดหัวหรือยุ่งยากกับการคำนวณตัวเลขเกี่ยวกับเรื่องของการหารค่าอาหารและค่าใช้จ่ายใดๆนั่นเอง หากใครสนใจอยากลองเล่นดูก็เข้าไปใช้งานได้เลยนะคะ

4 ต.ค.

IOS กับ Android นั้นแตกต่างกันอย่างไร 

สำหรับโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยนั้นมีเยอะแยะมากมายหลายแบรนด์เลยทีเดียวแต่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมากก็แบ่งออกเป็น 2 ระบบนั่นก็คือโทรศัพท์มือถือ iPhone

ซึ่งเจ้าของนั่นก็คือ Apple นั่นเองส่วนอีกระบบหนึ่งนั้นก็จะเป็น Android ซึ่งโทรศัพท์ Android นั้นก็จะมีมากมายหลายบริษัทที่เป็นเจ้าของการผลิตแต่ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมากเป็นพิเศษนั้นก็จะเป็นยี่ห้อ Samsung นั่นเอง 

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่ได้ยึดติดเกี่ยวกับแบรนด์ของยี่ห้อของโทรศัพท์มือถือแล้วชื่อว่าคงเกิดความสงสัยว่าระหว่าง iOS กับ Android

นั้นมันมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรหรือมันมีจุดเด่นอะไรที่เราจะนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ที่เราจะซื้อมาใช้นั้นเราควรจะซื้อ Android หรือว่า iOS ดีดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน 

สำหรับจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ iOS นั่นก็คือ  ตัวเครื่องนั้นสามารถที่จะใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้อย่างง่ายดายโดยเราจะสังเกตเห็นได้ว่าทาง Apple นั้นได้มีการผลิตสินค้าของตนเองออกมาเยอะแยะมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น asper Watch หรือ iPad หรือแม้แต่ Mac เป็นต้นซึ่งอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เราสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone ได้และเราไม่จำเป็นที่จะต้องมีการปรับเมนูการใช้งานตัวอุปกรณ์ใหม่เพราะว่าลักษณะของการทำงานนั้นมีรูปแบบที่มีความเหมือนกันมาก

ดังนั้นเราจึงสามารถใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่วถึงแม้ว่าเราจะพึ่งซื้อคนเหล่านั้นมาใช้งานก็ตาม นอกจากนี้การทำงานของระบบ iOS นั้นก็ยังสามารถใช้งานลื่นไหลและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปลั๊กน้อยมาก 

และที่สำคัญทาง Apple นั้นมักจะให้ลูกค้าได้มีการอัพเดทอุปกรณ์ของตนเองอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากว่าอุปกรณ์ของ iPhone นั้นมีปัญหาทาง Apple ก็จะมีการให้อัพเดท iOS อย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา 

ในขณะเดียวกันถ้าหากว่าเป็นระบบ Android นั้นจะเห็นได้ว่าในเรื่องของการอัพเดทระบบปฏิบัติการนั้นค่อนข้างมีการอัพเดทน้อยและเรามักจะพบปัญหา Bug

ซึ่งเกิดจากระบบ Android นั้นบ่อยมากเรียกได้ว่า Application ที่ดาวน์โหลดมาใช้งานใน Android นั้นค่อนข้างที่จะใช้งานยากและไม่ค่อยเสถียร  รวมถึงระบบ Android นั้น

ถ้าหากเปรียบเทียบเรื่องของความปลอดภัยการคัดกรองต่างๆจะเข้มงวดน้อยกว่า Apple มากดังนั้นเรามักจะเห็นได้ว่าพวกมิจฉาชีพทั้งหลายมักจะสามารถแฮกข้อมูลหรือส่งมาแวะมาก่อกวนแอพพลิเคชั่นใน Android มากกว่าใน  iOS นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    huaylike เข้าสู่ระบบ

16 ก.ย.

IPhone 15 และ iPhone 14 ต่างกันแค่ไหน 

เชื่อว่าหลายคนที่ชื่นชอบโทรศัพท์มือถือของ iPhone คงจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมายทุกครั้งที่ iPhone ได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างเช่นล่าสุดที่ iPhone ได้มีการออก iPhone 15 ออกมานั้นราคาก็ไม่ได้ถูกมากนัก  หรืออาจปรับได้ว่าราคานั้นเกินครึ่งแสนเลยก็ว่าได้ดังนั้นเมื่อมี iPhone 15 ออกมา iPhone รุ่นอื่นๆก็จะมีการตกรุ่นแต่ราคาก็จะตกตามไปด้วย

  ซึ่งในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เสาร์ iPhone ทั้งหลายถึงแม้ว่าจะอยากได้ iPhone 15 แต่ถ้าหากว่าเพิ่งซื้อ iPhone 14 ไปหลายคนก็คงจะมีการตั้งคำถามเกิดขึ้นในใจว่าเราควรที่จะมีการเปลี่ยนเครื่องจาก iPhone 14 เป็น iPhone 15 แล้ว

หรือและ iPhone 15 ที่ออกมาใหม่นั้นมันมีคุณสมบัติเด่นอย่างไรแตกต่างจาก iPhone 14 มากน้อยแค่ไหนเพียงพอให้เราที่จะซื้อ iPhone 5 มาใช้งานได้แล้วหรือยัง

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างกันระหว่างของ iPhone 14 และ iPhone 15 เหลือที่ใครกำลังพิจารณาอยากจะเปลี่ยนจาก iPhone 14 ไปใช้เป็น iPhone 15 จะได้นำข้อมูลนี้ไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจนั่นเอง 

สำหรับความแตกต่างระหว่าง iPhone 14 และ iPhone 15 ที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่าของเรานั่นก็คือการดีไซน์ของตัวเครื่องนั่นเองจะเห็นได้ว่ามีการปรับปรุงรูปแบบของตัวเครื่องมีการดีไซน์ให้มีความสวยงามและสะสมมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขอบตัวเครื่องนั้นจะมีความมนมากกว่า iPhone 14 เป็นอย่างมาก

และที่สำคัญสายชาร์จของ iPhone 15 นั้นก็มีการใช้เป็นแบบพอร์ต USB- C ซึ่งแต่เดิมนั้น iPhone 14 หรือแม้แต่ iPhone รุ่นอื่นๆนั้นจะไม่ได้มีการใช้สายชาร์จเป็นแบบ USB- C นี้ 

นอกจากนี้ภาพลักษณ์ภายนอกของ iPhone 15 ก็ยังเลิศหรูดูแพงเนื่องจากว่าวัสดุที่นำมาใช้ในการประกอบตัวเครื่องนั้น iPhone 15 ได้ถูกนำไทยเทเนียมมาใช้วัสดุในการสร้างตัวเครื่องของ iPhone 15

ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าตัวไทเทเนียมนั้นมีความแข็งแรงและทนทานมากแค่ไหน  รวมถึงปุ่มกดต่างๆของ iPhone 15 นั้นก็จะแตกต่างจากกลุ่มกฎของ iPhone 14 โดยมีการสลับปุ่มสั่งการและยังมีปุ่มลับอีกมากมายที่เราสามารถตั้งได้ตามต้องการ 

ที่สำคัญคือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือสเปคของ iPhone 15 นั้นจะมีความแรงมากกว่าเดิม  และมีลูกเล่นที่เยอะมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆซึ่งเราสามารถหาดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆเหล่านี้เพิ่มเติมได้จากทางอินเตอร์เน็ต  และที่เหมือนกันระหว่าง iPhone 14 และ iPhone 15 ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนนั้นก็จะเป็นหน้าจอซึ่งไม่ว่าจะเป็น iPhone 14 หรือ iPhone 15 ก็ยังคงใช้หน้าจอเท่ากันนั่นก็คือขนาด 6.1 นิ้วนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย     Huaylike

14 ก.ย.

วิธีคัดลอกรูปภาพจาก shopee และ Lazada affiliate เพื่อนำมาสร้างรายได้ทำยังไง

สำหรับในบทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับการคัดลอกลิงค์ จาก shopee กับ Lazada แล้วก็การนำข้อมูลแล้วก็รูปภาพจากสินค้าที่เราจะต้องการนำไปโปรโมทเพื่อสร้างรายได้จากการทำ affiliate แล้วก็รับเป็นค่าคอมมิชชั่นเนี่ยทำยังไง  โดยจะสอนวิธีการแชร์ลิงก์แชร์โพสต์ไปในแพลตฟอร์มช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ 

อันดับแรกเลยเนี่ยทุกคนก็จะต้องมี 2 แอปนี้ก่อนนั่นก็คือช้อปปี้แล้วก็ Lazada นั่นเองซึ่ง Lazada ซึ่งคนที่จะทำ affiliate ได้นั้นจะต้องมีการสมัคร Application shopee และ Lazada เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Lazada นั้นเราเพียงแค่คลิกคำว่า Last affiliate หลังจากนั้นก็เข้ามาสมัครใช้งานได้เลยซึ่งการใช้งานก็ไม่ยากเพียงแค่เราค้นหาสินค้าที่เราต้องการจะขายพิมพ์ชื่อไปก็ได้หรือเราจะดูว่าสินค้าตัวไหนที่น่าขายผ่านช่องทางหน้าหลักก็ได้และเราก็เพียงแค่กดคัดลอกลิงค์แล้วก็นำไปแชร์นำไปโปรโมทได้เลย

ส่วนช้อปปี้ก็เหมือนกันให้เราเข้ามาที่หน้าโปรไฟล์บัญชีส่วนตัวของฉันเลื่อนลงมาด้านล่างแล้วก็เข้าไปที่โปรแกรม affiliate เหมือนกันจากนั้น    เว็บหวยดี   เราก็สมัครกรอกข้อมูลให้เรียบร้อยแต่ว่าของ shopee จะต้องรอก่อเอกสารยืนยันเอกสารให้เสร็จ  ซึ่ง shopee จะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบภายใน 7 วัน

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าระหว่าง shopee กับ Lazada นั้นจะไม่เหมือนกันเนื่องจากว่า Lazada เราสามารถเริ่มทำเริ่มสร้างรายได้ได้ก่อนแล้วก็รอยืนยันตรวจสอบเอกสารทีหลังได้แต่ช้อปปี้เราต้องยืนยันเอกสารก่อนถึงจะสามารถเริ่มทำได้ อันดับแรกเราก็ต้องทำโพสต์ทำ Content ของเราเตรียมไว้ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ  จะคิดแคปชั่นเขียนเป็นบทความ ต้องมีการเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนจะนำไปโพสต์นำไปแชร์

ถัดมาเนี่ยก็ไปที่ช่องทาง Social Media ของเรา ซึ่งในบทความนี้จะเป็นการสอนแชร์ไปที่ Facebook Fanpage เดินเนื่องจากการที่เราจะต้องไปที่โปรไฟล์ส่วนตัวสลับบัญชีเป็น Facebook แฟนเพจ  หลังจากนั้นเนี่ยผมก็จะนำวีดีโอตัวที่เราเตรียมเอาไว้ไปแชร์ลงใน Facebook Fanpage แล้วก็จะติดลิงค์แอปริเอทของช้อปปี้แล้วก็ Lazada  แล้วเราก็ไปที่ Upload

สำหรับสินค้าที่เราจะนำไปโพสขายนั้นเราก็สามารถหาสินค้าได้จาก Applicationshopee กับ Lazada โดยจะพิมพ์คำค้นหาชื่อสินค้าที่เรามีการนำรูปภาพไปโพสต์เอาไว้  ซึ่งสินค้าแต่ละอย่างนั้นจะมีค่าคอมมิชชั่นให้กับเราด้วยแต่ละสินค้านั้นค่าคอมมิชชั่นก็จะแตกต่างกันออกไปบางสินค้าอาจจะได้ค่าคอมมิชชั่นเพียงแค่ประมาณ 1.75% ก็มีหรือบางสินค้าอาจจะได้รับเปอร์เซ็นต์ 7-8% ก็มีขึ้นอยู่กับสินค้าที่เรานำมาโพสต์นั่นเอง  ก็มีขึ้นอยู่กับสินค้าที่เรานำมาโพสต์นั่นเอง

สำหรับรายได้จากการที่เราทำ affiliate นั้นจะได้หลังจากที่คนเข้ามาซื้อสินค้าตามลิงค์ที่เรากดแล้วซึ่งทางร้านค้าก็จะเป็นคนให้ค่าคอมมิชชั่นกับทางเราผ่านทาง Application เราก็สามารถถอนเงินจากการขายสินค้าผ่าน affiliate  มาใช้งานได้

25 มี.ค.

Samsung ยกเลิกชื่อแบรนด์ Galaxy Z บางประเทศในยุโรป

          เชื่อว่าสาวก Samsung คงรู้ดีอยู่แล้วว่าบริษัทซัมซุงมีการผลิตเครื่องสมาร์ทโฟนมากมายหลายรุ่น

ซึ่งมีทั้งระดับสูงและระดับกลางรวมถึงระดับล่างเพื่อให้เกิดความหลากหลายของเครื่องโทรศัพท์อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัท Samsung ได้มีการประกาศยกเลิกชื่อเครื่องสมาร์ทโฟน Z Series ด้วยการยกเลิกนั้นจะเป็นการยกเลิกเฉพาะบางประเทศเท่านั้น  โดยการยกเลิกชื่อนั้นจะเหลือเพียงแค่ Galaxy Fold 3 และ Galaxy Flip  3 ส่วนสาเหตุที่มีการยกเลิกชื่อ Smartphone z-series นั้นก็มาจากเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งภายในประเทศยูเครนนั้นเอง 

           สำหรับเครื่องสมาร์ทโฟนระดับสูงของบริษัท Samsung นั้น Galaxy Z ถือได้ว่าเป็นเครื่องโทรศัพท์ที่มีลักษณะโดดเด่นนั่นก็คือเป็นลักษณะของหน้าจอพับได้

ถือว่าเป็นโทรศัพท์ Series สมาร์ทโฟนระดับสูงเลยทีเดียวโดย Galaxy Z นั้น ทางบริษัท Samsung ได้มีการผลิตและนำมาวางขายในตลาดในช่วงประมาณปีค.ศ 2020 และจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการผลิต Galaxy Z อยู่ 

        อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครนนั้นเองที่ส่งผลทำให้บริษัทซัมซุงจำเป็นที่จะต้องมีการยกเลิก

การใช้ชื่อ Galaxy Z เฉพาะในบางประเทศในแถบยุโรป  ซึ่งการยกเลิกชื่อ Galaxy Z นั้นได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท Samsung โดยถ้าหากว่าประเทศไหนในทวีปยุโรปที่ทาง Samsung จะมีการยกเลิกการใช้ชื่อ Galaxy Z ก็จะมีประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของประเทศนั้น

ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการยกเลิกไปแล้วในบางประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศลิทัวเนียหรือประเทศลัตเวียและประเทศเอสโตเนียก็ตามด้วยชื่อที่จะใช้จาก Galaxy Z Flip 3 และ Galaxy Z  Flip  3 นั้นก็ตัดคำว่าทิ้งเหลือเพียงแค่ Galaxy Fold 3 และ Galaxy Flip  3 เท่านั้น

        สำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะการประกาศผ่านทางเว็บไซต์เท่านั้น    ufabet   แต่ตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นกล่องหรือแม้แต่ตัวเครื่องเองก็จะมีการเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นเหลือเพียงแค่Galaxy Fold 3 และ Galaxy Flip  3  เช่นเดียวกัน  ส่วนสาเหตุสำคัญที่ต้องมีการตัดตัว Z ออกไป

นั้นก็เพราะว่าตัว Z นั้นถ้าหากว่าอยู่ในกองทัพรัสเซียมันคือสัญลักษณ์ของกองทัพนั่นเองดังนั้นเพื่อไม่ให้ไปเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องของการทำสงครามทางทหารหรือยึดอุปกรณ์ต่างๆของประเทศรัสเซีย Samsung จึงจำเป็นที่จะต้องมีการเอาตัว Z ออกจากผลิตภัณฑ์นั้นเอง 

      สำหรับเหตุผลที่จะรักจริงที่ทางผู้บริหารของบริษัทซัมซุงเอาตัว Z ออกจาก Galaxy Fold 3 และ Galaxy Flip  3  นั้นก็เพราะว่า บริษัทซัมซุงเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ต่อต้านการทำสงครามของประเทศรัสเซียที่ไปรุกรานประเทศยูเครนก่อนดังนั้นวิธีการตัดตัว Z ออกนับได้ว่าเป็นวิธีการคว่ำบาตรเป็นการยืนยันเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า Samsung ไม่ได้มีการสนับสนุนรัฐบาลของรัสเซียในการทำสงครามในครั้งนี้นั่นเอง